ไขปัญหาธรรมบนเว็บบอร์ด

ยินดีต้อนรับ, ผู้เยี่ยมชม
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน.    ลืมรหัสผ่าน?

ภัยต่อพุทธศาสนา 3
(1 viewing) (1) ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม
Go to bottom
ตอบกลับ
เริ่มหัวข้อใหม่
หน้า: 1
หัวข้อ : ภัยต่อพุทธศาสนา 3
#39
ภัยต่อพุทธศาสนา 3 13 ปี, 7 เดือน ก่อน  
ภัยต่อพุทธศาสนา ตอน 3

วันนี้ขอต่อเป็นตอนที่ 3 เรื่องภัยต่อพุทธศาสนา


ในตอนที่แล้ว หลวงตาได้นำเอาคำสั่งสอนขององค์พระพุทธศาสดา ที่ฝากเอาไว้ว่า บุคคลที่จะเป็นภัยต่อพุทธศาสนานั้น ก็คือคนในพระพุทธศาสนาเอง และสำคัญยิ่งคือที่อยู่ใกล้ชิดด้วย คือเป็นนักบวชที่อยู่ภายในร่มใต้คำสอนของพระพุทธองค์ ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ไม่ยอมศึกษา แต่เข้ามาเพียงแค่อาศัย แล้วเมื่อได้ลาภสักการะ ก็เกิดติดใจ ทำให้เกิดความทะยานอยากขึ้น จึงแสวงหาช่องทาง เมื่อได้ช่องทางการหาลาภก็ได้ลาภสมใจอยาก จึงเริ่มวินิจฉัย เมื่อวินิจฉัยแล้วก็เกิดความพึงใจ เมื่อพึงใจก็ตกลงปลงใจ ก็จะแสวงหามาก เมื่อได้มากก็เกรงว่าจะมีผู้อื่นมาแย่งชิง ก็เกิดความรู้สึกว่าจะต้องป้องกัน ก็จะเริ่มมีการทะเลาะวิวาท มีการด่าทอกันด้วยวาจาอันเป็นผรุสวาจา ที่สุดก็มีการทำร้ายทำลายกันจนถึงขั้นเข่นฆ่ากันในที่สุด

ธรรมที่เกิดขึ้นเป็นขั้นเป็นตอนนั้น ก็เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ที่ได้สั่งสอนเอาไว้แล้ว เรียกว่า ธรรม ๙ ประการอันเกิดจากความทะยานอยาก ซึ่งก็เป็นธรรมที่ต้องเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นขั้นเป็นตอน เฉกเช่นเดียวกับ สมุปบาทธรรม คือธรรมที่อาศัยซึ่งกันและกันในการเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในการทำอกุศลธรรม คือ

เมื่อทะยานอยาก ก็จะแสวงหา
เมื่อแสวงหา ก็จะได้มาซึ่งลาภนั้น
เมื่อได้ลาภมา ก็จะวินิจฉัย
เมื่อวินิจฉัย ก็จะมีความกำหนัด (ความคิด) ด้วยอำนาจแห่งความพอใจ ( ตกลงปลงใจ )
เมื่อมีความกำหนัดด้วยอำนาจแห่งความพอใจ ก็จะเกิดความฝังใจ
เมื่อมีความฝังใจ ก็จะเกิดความหวงแหน
เมื่อหวงแหน ก็จะเกิดความตระหนี่
เมื่อเกิดความตระหนี่ ด้วยอำนาจแห่งความตระหนี่ ก็จะเกิดการป้องกันอารักขา
เพราะมีการป้องกันอารักขาเป็นเหตุ จึงเริ่มมีการโต้เถียง จับไม้ จับศาสตราอาวุธ ชี้หน้า พูดจาขัดแย้ง ส่อเสียด ด่าทอ โป้ปด ลงมือทำร้ายกัน ทุบตีกัน ที่สุดก็เข่นฆ่ากันด้วยกรรมวิธีแตกต่างนานัปการ ไม่จำเป็นต้องฆ่าให้เสียชีวิต แต่ว่าฆ่าให้หมดหนทางที่จะดำเนินชีวิตต่อ หรือหมดหนทางทำมาหากิน ก็ถือเป็นการฆ่า ทั้งนี้ก็เป็นเหตุมาจากความทะยานอยากทั้งสิ้น


นี้ก็เพราะไม่ศึกษา ไม่วินิจฉัย ไม่อยู่ในศีล ไม่อยู่ในธรรมอันงาม ที่พระพุทธองค์ได้ทรงสั่งสอนเอาไว้แล้ว แต่กลับเอาวิสัยปุถุชนที่เคยคุ้น ไม่ศึกษาคำสอนแต่กลับไปรับเอาคำสอนที่ผิดๆ ดังที่ได้กล่าวไว้แล้วว่า ภัยที่ร้ายแรงคือคนใน ที่เรียนผิด ทรงจำผิด วินิจฉัยผิด แล้วก็ถ่ายทอดผิด นี่เป็นตัวอย่างที่พระพุทธองค์ได้ทรงสั่งสอนเอาไว้แล้วด้วยทรงวินิจฉัยแล้ว จึงได้นำเอามาสั่งสอน เตือนเอาไว้ก่อน

พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงธรรมเปรียบเทียบแก่นสารแห่งพระพุทธศาสนา ให้แก่พราหมณ์ผู้หนึ่งชื่อว่า ปิงคลโกจฉะ ที่สมัยหนึ่งได้เข้าเฝ้าพระพุทธองค์ ณ เชตวนาราม ใกล้กรุงสาวัตถี มีความพอสรุปได้ว่า


เมื่อบวชเข้ามาในศาสนาแล้ว ธรรมห้าประการเหล่านี้ก็จะเกิดขึ้น

จะมีคนเลื่อมใส ได้ลาภ มีชื่อเสียง เปรียบได้กับกิ่งใบของต้นไม้ใหญ่ที่สวยงาม ต้องไม่หยุดอยู่เท่านั้น ต้องมีความพึงใจที่จะต้องรักษาศีลให้งามยิ่งๆ ขึ้น จนถึงระดับศีลสัมปทา คือความสมบูรณ์ด้วยศีล เปรียบได้ดั่ง สะเก็ดไม้ของต้นไม้ใหญ่ ต้องไม่หยุดอยู่เท่านั้น ต้องมีความพึงใจที่จะฝึกฝนจิตให้ตั้งมั่นอยู่ในสมาธิให้มากยิ่งๆ ขึ้น ซึ่งก็เปรียบได้ดั่ง เปลือกไม้ของต้นไม้ใหญ่ เมื่อเจริญสมาธิจนมีจิตที่เจริญยิ่งในสมาธิแล้ว ก็ต้องไม่หยุดอยู่เท่านั้น ต้องมีความพึงใจพอใจที่จะศึกษาเจริญปัญญาให้เจริญยิ่งขึ้นจนถึงขั้นเกิดญาณทัศนะ ซึ่งเปรียบได้ดั่ง กระพี้ของต้นไม้ใหญ่ เมื่อเจริญปัญญาจนถึงขั้นญาณทัศนะแล้ว ก็ต้องไม่หยุดอยู่เพียงเท่านั้น ต้องมีความพึงใจพอที่จะเจริญปัญญาให้เจริญยิ่งๆ ขึ้น จนเข้าถึงความหลุดพ้นแห่งใจโดยไม่กลับมากำเริบอีก มีความแตกฉานแจ้งในธรรม ซึ่งเปรียบได้ดั่ง แก่นไม้ของต้นไม้ใหญ่

เช่นนี้ จึงจะเอาตัวรอด และสามารถถ่ายทอดธรรมอันงาม เพื่อที่จะยังให้พระพุทธศาสนาดำรงคงอยู่อย่างถูกต้องตรงธรรม สมดั่งคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ที่ได้ทรงตรัสรู้ธรรมอันงามเหล่านั้น และได้ทรงพระเมตตาอย่างยิ่งยวดเพื่อถ่ายทอดสั่งสอน ต้องผจญกับภัยต่างๆ ที่กิเลสของสัตว์ผู้ยากไร้กระทำต่อพระองค์ และพระองค์ก็ไม่ย่อท้อ ไม่หลีกเลี่ยง แต่ทรงผจญกับกรรมเหล่านั้นโดยไม่สร้างกรรมตอบโต้ ไม่ทรงกระทำให้สัตว์เหล่านั้นต้องลำบากแม้ในชาตินี้และชาติหน้า แม้สัตว์เหล่านั้นต่างก็ต้องรับผลแห่งกรรมของตนอยู่แล้ว ต้องเกิดใหม่เพื่อรับผลของกรรมที่ได้สร้างเอาไว้ด้วยตนเองไม่อาจหลีกหนีได้



วันนี้ ก็ขอจบเพียงเท่านี้ เมื่อมีโอกาสก็จะมาว่ากันต่อ


ใส่รหัสที่นี่   
กล่องตอบด่วน
kittiyano

Last Edit: 2021/11/10 15:22 By admin.
Reply Quote
 
#45
Re: ภัยต่อพุทธศาสนา 3 13 ปี, 7 เดือน ก่อน กรรม: 0
กราบนมัสการ หลวงพ่อกิตติญาโณ

ผมได้อ่านกระทู้ทั้งสามตอนแล้วครับ ได้เห็นว่าในปัจจุบันภัยต่อพุทธศาสนาเป็นเรื่องที่ต้องรีบช่วยกันแก้ไขครับ คำสอนของหลวงพ่อช่วยเตือนสติมนุษย์และหมู่สัตว์ทั้งหลายให้ตื่นขึ้นมาจากที่หลงไหลยึดคำสอนที่ผิดๆกันมามากมาย เกิดโทษเกิดภัยต่อพุทธศาสนาดังที่เห็นได้ในเหตุการณ์ปัจจุบันนี้ ผมจึงขออนุโมทนาส่วนบุญส่วนกุศลร่วมกับหมู่สัตว์ทั้งหลายที่ลุกขึ้นมาอย่างมีสติเพื่อช่วยกันทนุบำรุงพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่ถึง 5,000 ปี และขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อที่ได้เมตตาต่อหมู่สัตว์ตลอดมา

อดิศักดิ์ ตันตาปกุล


ใส่รหัสที่นี่   
กล่องตอบด่วน
admin
ผู้ดูแลระบบ
กระทู้: 46
graph
สมาชิกที่ไม่ได้ออนไลน์ Click here to see the profile of this user
Reply Quote
 
Go to top
ตอบกลับ
เริ่มหัวข้อใหม่
หน้า: 1