ไขปัญหาธรรมบนเว็บบอร์ด

ยินดีต้อนรับ, ผู้เยี่ยมชม
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน.    ลืมรหัสผ่าน?

ภัยต่อพุทธศาสนา 7
(1 viewing) (1) ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม
Go to bottom
ตอบกลับ
เริ่มหัวข้อใหม่
หน้า: 1
หัวข้อ : ภัยต่อพุทธศาสนา 7
#64
ภัยต่อพุทธศาสนา 7 13 ปี, 6 เดือน ก่อน  
ภัยต่อพุทธศาสนา 7

วันนี้เรามาต่อ ตอนที่ 7 เรื่อง ภัยต่อพุทธศาสนา

ตอนที่แล้ว หลวงตาได้กล่าวถึงเรื่องศักดิ์ศรี ในความหมายของศีลข้อที่สาม นั่นก็หมายความว่า เมื่อเราเข้าใจศีลข้อนี้ เราก็จะสามารถเดินต่อไปได้อีกยาวไกล เราจะไม่ทำความไม่ดีงาม ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของตนจนถึงวงศาคณาญาติ ครูอาจารย์และหมู่มิตร เราฝึกฝนตนเองห้ามตนเองอยู่เป็นประจำ ทำให้เกิดความศรัทธาในตนเอง และจะเพียรพยายามรักษาศีลข้อนี้ให้ยิ่ง จนสามารถหักห้ามจิตใจตนเองมิให้คิด มิให้ปรุงแต่งเรื่องที่ทำให้เสื่อมเสีย เป็นการยกระดับจิตของตนเองให้สูงขึ้น อย่างที่ได้กล่าวไว้แล้วแต่ตอนต้นว่า ไม่ทำบาปแม้ในที่ลับและที่แจ้ง

ที่ต้องกล่าวมากถึงศีลข้อสามนี้ ก็เพราะว่าเป็นข้อที่สำคัญยิ่ง เพราะจะทำให้หนีความเป็นธรรมดาของมนุษย์และสัตว์ที่ต่ำกว่าได้ เมื่อใดที่สามารถยกจิตตนเองได้ถึงระดับนี้ ศีลข้อที่สี่ ที่กล่าวถึงเรื่อง มุสาวาท คือวาจาอันเป็นเท็จ ถ้าเราตีความว่าเป็นเรื่องการพูดโกหก การดำเนินไปของศีลทั้งหลายก็จะดำเนินต่อไปไม่ได้ตลอด

เรามามองดูว่าองค์ศีลข้อนี้เน้นเรื่องวาจา เหมือนอย่างศีลข้อที่หนึ่งและศีลข้อที่สองเน้นเรื่องของการกระทำด้วยกาย ส่วนศีลข้อที่สามเน้นที่ความคิดคือจิตหรือใจ ฉะนั้นเราจะเห็นองค์คำสอนของพระศาสดาที่กล่าวถึงเรื่อง กาย วาจา ใจหรือจิต และตัวจิตนี้สำคัญยิ่ง เพราะเป็นตัวต้นที่นำไปสู่ทุกเรื่องราว เมื่อจะแก้ไขก็ต้องแก้ไขที่จิต จึงจะแก้ไขเรื่อง วาจา และ กาย ได้

ฉะนั้นการที่จะกล่าววาจาใดใดของใครใครในที่ไหนไหน จึงขึ้นอยู่ที่จิตเป็นเหตุต้น บุคคลย่อมไม่กล่าววาจาใดใดในที่ไหนไหน อันเป็นเหตุให้ตนเองและผู้อื่นต้องเสื่อมเสียศักดิ์ศรี เสื่อมเสียทรัพย์ หรือเป็นเหตุให้นำไปสู่ความบาดเจ็บจนถึงเสียชีวิต มีการกล่าวเรื่องอันเป็นเท็จ โดยมีเจตนาที่จะให้ผู้อื่นต้องได้รับความเสื่อมเสียศักดิ์ศรี เสื่อมเสียทรัพย์ หรือเป็นเหตุให้นำไปสู่ความบาดเจ็บจนถึงเสียชีวิตเป็นที่สุด

มาถึงตรงนี้คงจะเห็นกันแล้วว่า ศีล คือข้อพึงปฏิบัติและไม่พึงปฏิบัติ นั้นจะกล่าวถึงเหตุสุดท้ายที่เป็นที่สุด โดยมีองค์ธรรมเก้าประการมาประกอบจับในทุกๆ ข้อ โดยเริ่มมาแต่มีความทะยานอยากในจิต ถ้าเป็นฝ่ายกุศล ก็จะนำไปสู่การแก้ไขตนเองจนถึงที่สุดคือ มีความละอายและเกรงบาป นำไปสู่ความเจริญในจิต สามารถยกจิตตนให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงที่สุดได้โดยไม่ยาก ถ้าเป็นฝ่ายอกุศล ก็จะนำไปสู่ความเสื่อมในจิต สั่งสมความชั่วร้ายบาปเวรฝังลึกลงไปเรื่อยๆ จนยากที่จะแก้ไขถอดถอน ไม่ละอายไม่เกรงกลัวในบาป ในอาญาต่างๆ ทั้งทางโลกและทางธรรม จนนำไปสู่การเกิดในภพชาติต่างๆ ที่เต็มไปด้วยโทษทุกข์ ไม่รู้จบ

หลวงตาได้กล่าวไปถึงศีลสี่ข้อแล้ว วันนี้ก็จบเรื่องศีลได้ด้วย ศีลข้อที่ห้า ที่กล่าวถึงเรื่อง สุรา เมรยะ มัชชะ ประมาทฐาน ไม่ได้หมายเพียงแค่ห้ามดื่มสุราอย่างที่เราชาวไทยชอบตีความกัน อันที่จริง ข้อนี้กล่าวเน้นถึงเรื่องความประมาท ซึ่งจะเป็นเหตุให้นำไปสู่การกระทำผิดศีลในข้ออื่นๆ ได้โดยง่าย ยิ่งมีการเสพของมึนเมา ไม่ว่าจะระดับดีกรีหรือความเข้มข้นของน้ำเมาต่ำ อย่างเช่นที่มักดองมาจากดอกไม้ หรือระดับกลางที่มักดองมาจากผลไม้ และที่สุดระดับสูงที่หมักดองมาจากแป้งจำพวกข้าว

ความประมาทนี้มีอยู่เป็นธรรมดาอยู่แล้ว การจะตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาทนี้ เป็นเรื่องยาก ต้องมีสติที่สมบูรณ์พร้อม จิตต้องนิ่ง วิธีที่จะทำให้จิตนิ่งก็ต้องตั้งอยู่ในฌาน การตั้งจิตอยู่ในฌานถ้าฝึกมาไม่ดี คิดผิดคิดไม่งาม ชั่วเพียงเสี้ยววินาที บาปมหันต์ก็เกิดขึ้นแก่ตน ส่งผลให้ตัวเจ้าของและสัตว์อื่นต้องรับโทษทุกข์ ทั้งในชาตินี้และชาติหน้ายาวนานเป็นอสงไขย

ฉะนั้น การที่จะตั้งอยู่ในความมีสติพร้อมไม่ประมาทชนิดที่ไม่มีโทษทุกข์ จึงเป็นเรื่องที่ต้องพากเพียรอย่างหนัก พินิจวินิจฉัยธรรมอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก ไม่เปล่งวาจาใช่ว่าจะไม่คิด คิดผิดเพียงนิดติดอยู่อีกนาน ฉะนั้นศีลข้อห้านี้ จึงถือว่าสำคัญยิ่ง เพราะว่า “ ผิดเพียงข้อเดียวผิดหมดทุกข้อ ” ปกติก็ประมาทเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ถ้ามีสิ่งเสพติดมึนเมาเป็นตัวเร่ง ก็จะยิ่งประมาทมากไม่มีสติขาดการยั้งคิด ย่อมกระทำผิดศีลได้ทุกข้อ

วันนี้ หลวงตาก็สามารถจบเรื่องศีลของมนุษย์ได้ทุกข้อครบทั้งห้าข้อ และก็เป็นการจบเรื่องภัยต่อพุทธศาสนาด้วย โอกาสต่อไปถ้ายังมีโอกาสอยู่ หลวงตาก็จะนำเรื่องที่ตรงข้าม คือ เรื่องที่ไม่ใช่ภัยต่อพุทธศาสนา คือเป็นเรื่องที่จะช่วยกันบำรุงพุทธศาสนาให้เจริญได้อย่างไร

วันนี้ขอจบเรื่อง ภัยต่อพุทธศาสนา ไว้เท่านี้ อย่าเชื่อ นี่เป็นเพียงทัศนะของหลวงตาเท่านั้น ท่านทั้งหลายศึกษาแล้ว นำไปวินิจฉัย แล้วปรับใช้ให้เหมาะสมไม่เป็นภัยต่อตนและผู้อื่น ได้อย่างนี้ก็นับว่าดีมากแล้ว



ใส่รหัสที่นี่   
กล่องตอบด่วน
Kittiyano

Reply Quote
 
#66
Re: ภัยต่อพุทธศาสนา 7 13 ปี, 6 เดือน ก่อน กรรม: 0
กราบนมัสการ หลวงพ่อกิตติญาโณ

ผมและผู้อ่านกระทู้ทุกคนกราบขอพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างสูงที่ได้เมตตาเขียนบทธรรมมาให้อ่านจนจบเรื่อง " ภัยต่อพุทธศาสนา " อันเป็นบุญเป็นกุศลแก่ทุกท่านที่ได้อ่านกระทู้ธรรมทั้งหมดนี้ครับ

ขอนมัสการด้วยความเคารพ

อดิศักดิ์ ตันตาปกุล


ใส่รหัสที่นี่   
กล่องตอบด่วน
admin
ผู้ดูแลระบบ
กระทู้: 46
graph
สมาชิกที่ไม่ได้ออนไลน์ Click here to see the profile of this user
Reply Quote
 
Go to top
ตอบกลับ
เริ่มหัวข้อใหม่
หน้า: 1